ปัสสาวะเล็ด รักษา ได้ หลายคนอาจรู้สึกอายและไม่กล้าไปพบแพทย์ แต่อย่าลืมว่าอาการนี้รักษาได้ และยิ่งรีบรักษาเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเร็วขึ้น หากคุณมีอาการปัสสาวะเล็ด ลองเริ่มต้นด้วยการปรับพฤติกรรมและออกกำลังกาย ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ เพราะสุขภาพของคุณสำคัญที่สุด ปัสสาวะเล็ด รักษา ได้ ไม่ต้องผ่าตัด ต้องปรึกษา 5 คลินิกนี้ พิม คลินิกกายภาพบำบัด รัตตินันท์ คลินิก รีคัฟเวอรี่ มี คลินิก รีจูเว็ท คลินิก อันดาวินคลินิก พิม คลินิกกายภาพบำบัด รักษาปัสสาวะเล็ด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน และปลอดภัยสูง เห็นผล การนั่งเครื่องแม่เหล็กไฟฟ้า นาน 40 นาที รักษา 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ (ขึ้นกับความรุนแรง) ช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน หดตัว เหมือนออกกำลังกาย ขมิบ 20,000 รอบต่อนาที ทำให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะแข็งแรง กล้ามเนื้อมดลูกกระชับแข็งแรง ช่องคลอดกระชับ ฟิต แน่น เส้นประสาทที่ไปเลี้ยงน้องสาวแข็งแรงและยืดหยุ่น[…อ่านต่อ]
Tag Archives: รักษาปัสสาวะเล็ด
รักษาปัสสาวะเล็ด ไม่ใช่เรื่องน่าอาย และสามารถรักษาได้ อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ดังนั้นอย่ารู้สึกแย่หรือลำบากใจ หากเริ่มมีอาการควรรีบหาทางรักษาปัสสาวะเล็ดก่อนที่มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น และที่สำคัญที่สุด คือดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ทั้งการออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก และการรับประทานอาหารที่เหมาะสม
วิธี รักษาปัสสาวะเล็ด แบบสมัยใหม่โดยไม่ต้องผ่าตัด
โชคดีที่ปัจจุบันมีวิธีรักษาปัสสาวะเล็ดโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด มาดูกันว่าเทคนิคใหม่ ๆ มีอะไรบ้าง!
1.ออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel Exercise)
- เป็นวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการปัสสาวะ ทำให้สามารถกลั้นได้ดีขึ้น
- วิธีทำง่าย ๆ คือ บีบและคลายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (เหมือนตอนกลั้นปัสสาวะ) ค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำวันละ 3 เซ็ต
2.การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์และคลื่นพลังงาน
- ปัจจุบันมีการใช้ เลเซอร์และคลื่นพลังงาน RF (Radiofrequency) หรือ HIFEM เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในเนื้อเยื่อรอบ ๆ กระเพาะปัสสาวะ ทำให้บริเวณนั้นแข็งแรงขึ้น
- เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่เจ็บ และช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานกระชับขึ้น
3.การฝึกกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Training)
- เป็นวิธีฝึกให้ร่างกายควบคุมการปัสสาวะได้ดีขึ้น โดยค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาระหว่างการเข้าห้องน้ำ เช่น ถ้าปกติปัสสาวะทุก 1 ชั่วโมง ให้ลองเพิ่มเป็น 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วค่อย ๆ ขยายไปเรื่อย ๆ
- วิธีนี้ช่วยลดอาการปัสสาวะเล็ดจากการกลั้นไม่อยู่ได้ดี
4.การใช้ไบโอฟีดแบค (Biofeedback)
- เป็นเทคนิคที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการทำงานของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เพื่อช่วยให้เรารู้ว่าควรออกแรงบีบหรือผ่อนคลายอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- มักใช้ร่วมกับการทำ Kegel Exercise เพื่อให้ได้ผลเร็วขึ้น
5.การใช้ยารักษาปัสสาวะเล็ด
- มีบางกรณีที่แพทย์อาจจ่ายยากลุ่ม Anticholinergics หรือ Beta-3 agonists เพื่อช่วยลดการหดตัวของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้สามารถควบคุมการปัสสาวะได้ดีขึ้น
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ เพราะบางคนอาจมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ตาพร่า หรือท้องผูก
6.การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ควบคุมน้ำหนัก ไม่ปล่อยให้อ้วนเกินไป
- เลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย เช่น กาแฟ แอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม
- เข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา ไม่อั้นปัสสาวะนานเกินไป
7.การใช้แผ่นรองซับปัสสาวะ
- สำหรับคนที่อาการยังไม่ดีขึ้นทันที อาจใช้แผ่นรองซับปัสสาวะช่วยลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
เข้ารับ การรักษาปัสสาวะเล็ด ที่คลินิกเฉพาะทาง
หากลองปรับพฤติกรรมแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้เข้ารับการรักษาปัสสาวะเล็ดที่ คลินิกเฉพาะทางด้านปัสสาวะ ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาปัสสาวะเล็ดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แพทย์จะวินิจฉัยอาการของคุณและเลือกแนวทางการรักษาปัสสาวะเล็ดที่เหมาะสมที่สุด เช่น การใช้คลื่นพลังงาน, การทำกายภาพบำบัดเฉพาะทาง หรือการให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง
การไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว รู้สึกว่ามีอาการคล้าย ๆ กัน ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปปรับใช้ดู หรือเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อรักษาปัสสาวะเล็ด แล้วอาการอาจดีขึ้นจนคุณกลับมามั่นใจได้อีกครั้ง!